นอกอำนาจปปช.และไม่ปฏิบัติตามกระบวนการและขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดอันเป็นสาระสำคัญ
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ. 1/2562
คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยไว้ว่า อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัย มีเฉพาะความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการเท่านั้น ไม่อาจไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัยฐานอื่นได้ การที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูล ทางวินัยผู้ฟ้องคดีในความผิดฐานอื่น จึงเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย มติดังกล่าวจึงไม่ผูกพันผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดีและผู้บังคับบัญชามิอาจถือเอารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติมาเป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนวินัย ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนตามมาตรา 92 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้
ดังนั้น การที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตามการชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในกรณีนี้ โดยมิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นทำการสอบสวนผู้ฟ้องคดีและมิได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ฟ้องคดีทราบ เพื่อให้ผู้ฟ้องคดีได้มีโอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานและนำสืบแก้ข้อกล่าวหาร้ายแรงตามมาตรา 45 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535
คำสั่งลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการตามฐานความผิดดังกล่าว จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญในการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ข้าราชการพลเรือน
_______________
(ฟ. คือคดี ฟ้องตรงต่อศาลปกครองสูงสุด)
|